จากการรู้จักร้านแว่นตาโอคูระผ่าน บทความของนิตยสาร The Cloud ลูกค้าท่านนี้ได้เดินทางมาวัดสายตาและตัดแว่นกับทางร้าน ด้วยความประทับใจจึงเขียนบทความนี้ไว้ให้กับทางร้านโอคูระ ทางร้านขอขอบคุณมากค่ะ
The Cloud เป็นเพจที่ทำให้เราได้รู้จักร้านแว่นตาโอคูระ ตอนที่อ่าน Story ของร้านโอคูระครั้งแรก เรารู้สึกอึ้งกับการวัดแว่นสายตาหนึ่งชั่วโมง เพราะมันละเอียดมากพอๆ กับการตัดผมผู้หญิงเลย คิดในใจว่าถ้าแว่นตาพังจะมาตัดที่ร้านนี้ แล้วเราก็ลืมเรื่องนี้ไป ปรากฎอาทิตย์ที่แล้ว กรอบแว่นดันหัก ทำให้มีโอกาสมาร้านโอคูระจริงๆ และพอมาถึงหน้าร้านเราก็เชื่อว่ามีอะไรดีๆ รออยู่
ความประทับใจแรกคือการให้บริการที่ดีของทุกท่าน สมคำร่ำลือในเพจ ก้าวแรกที่เราเดินเข้ามา เราสัมผัสได้ถึงเสียงดนตรีเบาๆ กับบาร์เครื่องดื่ม ใช่ค่ะ มีบาร์เครื่องดื่มในร้านแว่นตา
ถ้าได้ข้าวกระเพราด้วยก็จะดีมาก 55 หลังจากสั่งชาเขียว เราได้ก็พูดคุยกับคุณกันต์ ต้องขอขอบคุณในความเป็นมิตรและการต้อนรับที่ดีของคุณกันต์และทุกท่านไม่นานเราก็ได้เข้าไปวัดสายตา จากเก้าอี้ถึงกระดานชาร์ตที่ให้อ่านตัวเลข มันช่างยาวไกลเหลือเกิน ไกลตั้ง 6 เมตร คิดในใจว่าจะอ่านเห็นถึงบรรทัดสุดท้ายมั้ยน้า แล้วการวัดสายตาก็เริ่มขึ้น เมื่อเราต้องไล่อ่านตัวเลขไปทีละแถว จากล่างขึ้นบนกลางไปล่าง หรือให้อ่านแถวล่างเลย (ได้มั้ยคะ?) วัดโหดมาก เหมือนตอบคำถามในห้องสอบที่รู้ว่าตอบไม่ได้ แต่คุณหมอวัดสายตาก็ให้กำลังใจ ไม่เป็นไรค่ะ สักพักเริ่มสนุกขึ้นเพราะให้อ่านตัวภาษาอังกฤษด้วย เราก็ไล่อ่านไปเรื่อยๆ เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง จนไปเห็นตัวอักษรญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีในชาร์ต 55 คุณหมอเลยให้ปิดตา พักสายตาสักพัก แล้วอ่านใหม่
เรียกว่าเป็นการวัดสายตาที่เข้มมาก ถามย้ำไปย้ำมา เพื่อความชัวร์ว่าเรามั่วป่าว ที่พีคสุด คือ มีอุปกรณ์เสริมเหมือนเป็น ตารางสี่เหลี่ยมตัดกัน [ # ] ให้อ่าน เราว่ามันก็สนุกดี คิดว่าคนที่คิดการทดสอบนี้น่าจะเป็นคนช่างสังเกต ใส่ใจ และมีความคิด สร้างสรรค์มากทีเดียว
สุดท้าย การวัดสายตาก็สิ้นสุดลงที่ค่าสายตาเอียง 500 ใช่แล้วค่ะ 500 แล้วนาทีที่ได้ใส่เลนส์เท่าค่าสายตาที่เอียงจริง มันชัดมาก แม่เจ้า ชัดแบบ เหมือนดูทีวีดีๆ ที่จอภาพคมชัด จนนึกสงสัยที่ผ่านมา เราอยู่กับความไม่ชัดแบบนี้มาได้ยังไง แต่พอต้องสวมเลนส์ 500 เดินจริงๆ ไม่ไหวแฮะ พื้นมันลอย สุดท้ายคุณหมอเลยแนะนำให้ดรอปเลนส์ลงมาที่ 450 ก่อน เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เสร็จจากการวัดค่าสายตา เรามาต่อที่การ เลือกเลนส์และกรอบแว่น เราเลือกเลนส์ก่อน ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์ รู้ว่าเลนส์มี 3 แบบเลยนะ ตามระดับความชัดกับมุมมองการรับภาพ ก็เลือกเอาตามอัธยาศัย เราชอบเลนส์ที่เห็นกว้างสุดๆ แบบเก็บครบทุกรายละเอียด แล้วขอแบบย่อบาง ความดีงามคือ อยากเลือกต้องได้เลือก แล้วตอบโจทย์ตามที่ลูกค้าอยากได้ โดยไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
จนมาถึงพระเอกของวันนี้ ต้องยกให้กรอบแว่นตา เพราะกรอบแว่นตาเป็นอะไรที่เลือกยากมาก ตั้งแต่เริ่มใส่แว่นตอน ป.5 จนถึงตอนนี้ เราคิดว่าการเลือกกรอบแว่นมันยาก เพราะใส่ยังไงมันก็ไม่เข้ากับหน้า พอไม่สวย (คิดไปเอง) เลยทำให้ไม่ อยากใส่แว่นตลอด อย่างกรอบที่ใช้อยู่ตอนนี้เป็นสีน้ำเงินเข้ม รู้สึกหนักไป
คุณกันต์เหมือนรู้ใจ ช่วยหยิบกรอบ Lindberg มาให้ลองสวมอันนึง นาทีแรกที่ได้สัมผัสกับกรอบแว่น เรารับรู้ได้ถึงความเบา คือมันเบามาก แต่ให้ความรู้สึก Strong แล้วลองสวมจริงคือดีงามมาก เบาแต่หนักแน่น จนตัวเองแอบตกใจคุณสมบัติที่เค้าเอามาผสมกันอย่างลงตัว
แม้ว่าจะเปลี่ยนไปลองกรอบแบบอื่นๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาที่กรอบอันแรกที่คุณกันต์แนะนำให้ มันคือกรอบแว่นที่รอคอยมา
ทั้งชีวิต กับนิยามที่ว่าใส่ก็เหมือนไม่ได้ใส่ เพราะความเบาหวิวของกรอบแว่น ทำให้มั่นใจว่าหลังจากนี้จะใส่แว่นติดตาได้
เสียที เพราะอายุอานามก็ปาเข้าใกล้เลข 4
สุดท้ายได้ความรู้จากหมอผู้ชาย ทำให้ทราบว่า Lindberg เค้าเลือกวัสดุที่แพทย์ใช้ รวมถึงซิลิโคนที่เป็นมิตรกับสภาพผิว ของเรา น้ำหนักเบา ทนทาน บางท่านจึงสามารถใช้กรอบเดิมได้นานถึงสิบปี เลยคิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกแว่นตาอันนี้ พอขึ้น MRT กลับบ้าน มาอ่านประวัติผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้เพิ่ม เลยยิ่งประทับใจ และขอขอบคุณผู้คิดค้นแบรนด์นี้ขึ้นมาเพราะ เค้าพยายามคิดแว่นที่น้ำหนักเบา ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้า และเห็นความพิเศษของ Brand ที่สะท้อนทั้งคุณภาพและตัวตนของผู้สวมใส่ เลยไม่แปลกใจว่าทำไมแบรนด์นี้จึงเป็นที่นิยม และทำให้ดิฉันยินดีควักกระเป๋าเงินจ่ายแว่นตาในสนนราคา 4 หมื่น ขอให้แว่นตา (ที่รัก) อยู่กับเราไปนานๆ นะจ๊ะ จะดูแลอย่างดีจ้ะ
กรอบแว่นสายตา LINDBERG : RIM Morten
ติดตามอ่าน บทความบนนิตยสาร The Clound
หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงตา คุยกับอดีตนักการเงินเจ้าของ Occura ร้านแว่นตาที่ทำลายทุกกฎการเป็นร้านแว่นตา ตั้งแต่การทำร้านสวยสไตล์มินิมอล ไปจนถึงทำเลที่ตั้งที่แสนลับตา…คลิกอ่านต่อ
ติดต่อปรึกษาตรวจวัดสายตากับโอคูระ | มิติใหม่ของร้านแว่นตา พร้อมบริการแบบส่วนตัว T : 02-645-0192 l M : 081-611-6823 l Line : @occura l FB / IG : occuravision
100/74 อาคารว่องวานิช บี ชั้น 23 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320