คำถามที่พบบ่อย
ดูแลตรวจวัดสายตาโดยนักทัศนมาตร (หมอสายตา) ที่จบการศึกษาหลักสูตรทัศนมาตรศาสตร์บัณฑิต Doctor of Optometry มีใบประกอบวิชาชีพ ในระดับมาตรฐานออกโดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจวัดสายตาและระบบการมองเห็นที่เกิดขึ้นจากกล้ามเนื้อตา นำมาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่เหมาะสมอย่างเข้าใจถึงความต้องการในไลฟ์สไตล์การใช้งานของแต่ละบุคคล และสามารถให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพสายตา
ทำการตรวจวัดสายตาด้วยเครื่องตรวจวัดค่าสายตาและสุขภาพตา WAM เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยแบบครบวงจรในเบื้องต้น และตรวจวัดค่าสายตาอย่างละเอียดด้วยเครื่อง Phoropter ในห้องตรวจวัดสายตาที่ยาว 6 เมตรตามมาตรฐานสากล เพื่อนำค่าสายตาที่ได้ไปวิเคราะห์ในการคัดสรรกรอบแว่นตา และเลนส์ที่เหมาะสม ร่วมกับทีมช่างประกอบแว่นตา (Optician) ที่มีประสบการณ์ในการประกอบแว่นตาให้เหมาะสมกับสรีระของใบหน้า โดยเฉพาะส่วนจมูก และหูที่มีลักษณะที่เฉพาะไม่เหมือนกันของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการปรับ ดัด เพื่อทำให้กรอบแว่นตาและเลนส์ช่วยให้การมองเห็นในชีวิตประจำวันกลับมาสะดวกสบายมากขึ้น
ใช้เวลาโดยประมาณ 40-60 นาทีขึ้นไป เป็นการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด โดยคำนึงถึงคุณภาพการมองเห็นของค่าสายตาในปัจจุบัน รวมถึงการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น วิเคราะห์ค่าสายตา และให้คำปรึกษาในการเลือกกรอบแว่นตา และเลนส์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล
หมายเหตุ : เวลาดังกล่าวยังไม่รวมถึงการให้คำปรึกษาในการเลือกกรอบแว่นตา และเลนส์ที่เหมาะสมกับค่าสายตา
เนื่องจากกรอบแว่นตา และเลนส์ในแต่ละแบรนด์ จะมีระยะการรับประกันสินค้าไม่เท่ากัน หากเกิดปัญหาใดในทุกช่วงเวลา กรุณาแจ้งทางร้านเพื่อตรวจสอบระยะเวลาเงื่อนไขในการรับประกัน และการดูแลปัญหาจากการใช้งานที่เกิดขึ้น ทางร้านจะประสานงานกับแบรนด์ต่างๆ ในการดูแลแว่นตาและเลนส์ของท่าน กรณีจำเป็นที่ต้องมีค่าบริการ หรือค่าอะไหล่เพิ่มเติม จะเรียนแจ้งให้ทราบหลังประเมินปัญหาที่เกิดขึ้นของกรอบแว่นตา หรือเลนส์ เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาต่อไป โดยทางโอคูระจะเป็นผู้ดูแลประสานงานให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าเป็นสำคัญ
สามารถทำได้ แนะนำให้ใช้เป็นกรอบรุ่นเดิม เพื่อไม่ให้เกิดการคลาดเคลื่อนศูนย์กลางของเลนส์ที่ได้ทำการประกอบไว้ หากเปลี่ยนกรอบที่ไม่เหมือนรุ่นเดิมอาจส่งผลต่อการใช้งานเกิดการมองเห็นที่ไม่สบายตาเท่าที่ควร หรืออาจเกิดอาการวิงเวียนศีรษะในบางท่าน
ในการทำแว่นสายตาครั้งแรก และการเปลี่ยนกรอบแว่นตา หรือเลนส์ที่มีค่าสายตาเปลี่ยนแปลง จะมีผลกับการปรับตัวของสายตาที่ไม่เหมือนกันของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 3 สัปดาห์ขึ้นไปในการปรับตัว
ในระหว่างนี้ทางนักทัศนมาตร (หมอสายตา) จะทำการดูแลการใช้งานแว่นตาในช่วงการปรับตัวกับท่านตลอดระยะเวลาในการปรับตัว เพื่อที่จะทำการวิเคราะห์ และดำเนินการดูแลให้สามารถใส่แว่นตา เพื่อช่วยให้การมองเห็นในชีวิตประจำวันกลับมาสะดวกสบายมากขึ้น
ทางร้านยินดีดูแลตรวจสอบ และทำการประเมินว่าสามารถทำการซ่อมแซมเบื้องต้นได้หรือไม่ หากประเมินแล้วพบว่าอาจมีโอกาสเกิดการเสียหายได้ ขออนุญาตแนะนำให้ท่านนำกรอบแว่นตาไปให้กับทางร้านที่ซื้อกรอบแว่นตานั้นทำการดูแล หากเกิดการเสียหายทางร้านโอคูระจะไม่สามารถประสานกับทางแบรนด์กรอบแว่นตาเพื่อดูแลในเรื่องอะไหล่ได้ เนื่องจากไม่ใช่กรอบแว่นจากคลังสินค้าของทางร้านเอง ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าจะเสียผลประโยชน์ในระยะการรับประกันจากทางร้านที่ท่านซื้อมาได้
นักทัศนมาตร (หมอสายตา) จะทำการตรวจวัดค่าสายตาเบื้องต้น ด้วยเครื่องตรวจสุขภาพตา และค่าสายตาจากสรีระดวงตา WAM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้คำปรึกษาทั้งในเรื่องการแก้ไขค่าสายตา และการดูแลสุขภาพตาเบื้องต้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆจนถึงขั้นตอนนี้
หากต้องการตรวจวัดค่าสายตาโดยละเอียด เพื่อนำค่าสายตาที่วิเคราะห์ได้ไปประกอบการคัดสรรกรอบแว่นสายตา และเลนส์ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 40 – 60 นาทีขึ้นไปตามความยากหรือง่ายของค่าสายตา แต่ไม่ประสงค์จะให้ทางโอคูระบริการและดูแลในเรื่องกรอบแว่น หรือเลนส์ ขออนุญาตจัดเก็บค่า Voucher มูลค่า 2,000 บาท ซึ่งท่านสามารถนำ Voucher มาใช้เป็นค่าบริการ และค่าสินค้าต่างๆ ของทางร้านในครั้งหน้าได้ โดยไม่มีวันหมดอายุ
ยินดีรับชำระด้วยบัตรเครดิต American Express, Visa , Master Card, และ Union Pay โดยไม่ชาร์จค่าบริการเพิ่ม
มีโปรแกรม PayLite ร่วมกับบัตรเครดิตธนาคาร
กรุงเทพ , กรุงไทย , ไทยพาณิชย์ , กสิกรไทย
0 % 4 เดือน สำหรับยอดใช้จ่าย 10,000 บาทขึ้นไป
ราคากรอบแว่นตา เริ่มต้นที่ 1,900 บาท
ราคาเลนส์สายตา เริ่มต้นที่ 1,200 บาท
ร้านโอคูระมีกรอบแว่นตาให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันตั้งแต่โครงสร้างวัสดุ สไตล์ และมีแบรนด์ที่ทางร้านเป็นตัวแทนจำหน่ายอีกมากมาย
สามารถดูกรอบแว่นและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้
ร้านโอคูระมีกรอบแว่นตาให้เลือกหลากหลายแบรนด์ และรูปแบบ เช่น Lindberg, Ic! Berlin, Eyevan , Gucci, Dior, Oliver Peoples, Stephane Christian,และ Bolon เป็นต้น
สามารถดูกรอบแว่นและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้
มีกรอบแว่นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ โดยแป้นจมูกและปลอกปลายขาจะถูกผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ด้วยวัสดุ Hypoallergenic
ราคาเริ่มต้นที่ 2,900 บาท
ราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาท
เลนส์สามารถปรับแสงได้ เมื่อออกแดดแล้วจะปรับสีไปตามความเข้มของแสง UV ที่ได้รับ
ช่วยในผู้ที่ดวงตาแพ้แสงมาก เมื่อต้องอยู่ในที่มีแสงแดดจ้า แต่เมื่ออยู่ในที่ร่มจะปรับเป็นเลนส์ใสปกติ
โดยยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยกรองแสงสีฟ้าได้อีกด้วย
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์ป้องกันแสง UV ชนิดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้
โดยส่วนใหญ่แล้วแสงสีฟ้าที่อันตรายจะอยู่รอบตัวเราทั้งกลางแจ้งจากแสงอาทิตย์ และในที่ร่มจากหลอดไฟ และอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ หรือแม้แต่นาฬิกา Smart Watch จะมีการปล่อยแสงสีฟ้าอันตรายออกมาได้ทั้งนั้น แสงสีฟ้าที่อันตรายหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการตาล้า ตาแห้งหรือ จอประสาทตาเสื่อม ทำให้การเลือกใช้เลนส์กรองแสงสีฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
เลนส์กรองแสงสีฟ้าที่มีการออกแบบให้กรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 เทคโนโลยี
1. เทคโนโลยีเคลือบโค้ทสะท้อนแสงสีฟ้า
ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท เป็นเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์เพื่อสะท้อนแสงสีฟ้า โดยใช้หลักการสะท้อนคลื่นแสงสีฟ้าออกไปส่วนหนึ่งแล้วปล่อยแสงสีฟ้าที่มีประโยชน์เข้าสู่ดวงตา แต่เทคโนโลยีนี้ทำให้ภาพที่มองเห็นผ่านเลนส์จะมีความเหลือง อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องใช้งานการแยกความแตกต่างของสี Color Contrast
รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาต้อกระจก เนื่องจากต้อกระจกจะทำให้ปริมาณแสงที่เข้าสู่ตาน้อยลงอยู่แล้ว หากเลนส์มีความเหลืองซ้อนทับจะยิ่งทำให้ความสว่างลดลงกว่าเดิม หรือผู้ที่ต้องขับรถในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย ในบางท่านอาจเห็นแสงฟุ้งจนเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ได้
2. เทคโนโลยีผสมสารดูดซับแสงสีฟ้าในเนื้อเลนส์
ราคาเริ่มต้นที่ 4,900 บาท เป็นเทคโนโลยีที่นำสารช่วยกรองแสงสีฟ้าผสมเข้าไปในเนื้อเลนส์ เพื่อช่วยดูดซับแสงสีฟ้าอันตรายไว้ในวัสดุเนื้อเลนส์ แต่ในขณะเดียวกันจะปล่อยแสงสีฟ้าที่มีประโยชน์ให้ผ่านเข้าสู่ดวงตา เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระฉับกระเฉง สดชื่น ในเวลาที่ควรตื่น หรือรู้สึกว่าเวลาไหนควรนอน ช่วยให้ร่างกายปรับ “นาฬิกาชีวิต” ได้สมดุลมากขึ้น เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ภาพที่มองเห็นผ่านเลนส์มีความใส และเหลืองน้อยกว่า ทำให้สามารถแยกความแตกต่างของเฉดสี Color Contrast ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้าน Graphic design, Fashion designer, และ Digital artists และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการมองเห็นภาพที่คมชัดขึ้นในทุกสภาวะแสง ช่วยในการใส่ขับรถในเวลากลางคืนหรือที่มีแสงน้อยได้ดีกว่า
เลนส์สายตา มีหลายประเภทออกแบบมาเพื่อดูแลปัญหาสายตาที่ไม่เหมือนกันในแต่ละบุคคล เพื่อช่วยให้การมองเห็นกลับมามีประสิทธิภาพมากขึ้น
เลนส์ชั้นเดียว : สำหรับสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงทั่วไป เป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียวทั้งชิ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการมองเห็นคมชัดในระยะเดียว ส่วนผู้ที่มีค่าสายตายาวตามวัย อาจจำเป็นที่จะต้องพกแว่นตา 2 อัน สำหรับมองระยะใกล้ และอีกอันสำหรับมองระยะไกล
เลนส์เฉพาะทาง :
เลนส์โปรเกรสซีฟ สำหรับผู้ที่มีอายุ 38 ปีขึ้นไป ที่ตรวจพบภาวะสายตายาว ที่ความสามารถในการเพ่งของดวงตามีประสิทธิภาพลดลง เลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยทำให้การมองเห็นในชีวิตประจำวันทั้งระยะใกล้ กลาง และไกล อยู่ภายในเลนส์เดียวกัน เพื่อให้การมองเห็นคมชัดสบายตาในทุกระยะ ทำให้การทำกิจกรรมประจำวันกลับมาสะดวกสบายมากขึ้น
ออฟฟิศเลนส์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 38 ปีขึ้นไปที่มีภาวะสายตายาว และการมองเห็นระยะไกลปกติ ที่ต้องใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล หรืออ่านหนังสือต่อวันเป็นเวลานาน จึงออกแบบให้ระยะใกล้ และระยะกลางของพื้นที่เลนส์ในการอ่านหนังสือ หรือมองจอคอมพิวเตอร์ให้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับการทำงานกับอุปกรณ์บนโต๊ะทำงาน โดยมีระยะการมองอ่านเอกสาร สลับกับการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ อยู่ที่ประมาณ 40 – 70 เซนติเมตร และเผื่อสำหรับการเงยหน้าไกลออกไปได้จนถึงประมาณ 1-2 เมตร ได้อย่างคมชัดสบายตามากขึ้น โดยไม่ต้องสลับเปลี่ยนแว่นตา
ออฟฟิศเลนส์เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีแว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟที่ทำให้การมองเห็นในทุกระยะสะดวกสบายอยู่แล้ว แต่ต้องการความคมชัด และสบายตาในการทำงานที่ต้องใช้การเพ่งสายตาต่อวันเป็นเวลานาน
ดิจิทัลเลนส์ เลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ที่เริ่มมีภาวะสายตายาวตามช่วงอายุเพียงเล็กน้อย ช่วยให้การมองเห็นในระยะใกล้ และระยะไกล โดยเฉพาะเมื่อใช้สายตาเป็นเวลานานจากงานเอกสาร หรือจากอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาล้าที่มากกว่าปกติ สามารถช่วยทำให้การมองเห็นที่คมชัดสบายตามากขึ้น หรือในผู้ที่มีภาวะตาเขซ่อนเร้นบางประเภท นักทัศนมาตร (หมอสายตา) จะต้องทำการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้นวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำการแก้ไขปัญหา เพื่อให้สายตากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเลนส์ดิจิทัลยังมีส่วนช่วยในการปรับตัวสำหรับเพื่อการปรับตัวใช้เลนส์โปรเกรสซีฟในอนาคตได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
รุ่นของเลนส์ และความแตกต่างของราคา มีให้พิจารณาได้จากโครงสร้างเฉพาะบุคคลของเลนส์ และคุณสมบัติตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน จากทุกแล็บเลนส์ชั้นนำ การเลือกรุ่นเลนส์ที่เหมาะสมในการใช้งาน โอคูระจะคำนึงจากภาวะค่าสายตาจริงที่ผ่านการวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาค่าสายตาอย่างเหมาะสมเท่านั้น จะไม่ทำการใส่ค่าสายตาและภาวะอื่นๆที่ไม่จำเป็นที่อาจเกิดปัญหากับสุขภาพตาในอนาคตให้กับให้กับผู้ใช้งานอย่างแน่นอน
ทางร้านได้แบ่งเลนส์ Progressive เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ
- Conventional Progressive ผลิตโครงสร้างค่าสายตาแบบสำเร็จรูป โดยไม่ได้นำค่าสายตา สรีระตาและรายละเอียดของแต่ละบุคคลมาคำนวณ อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวค่อนข้างนาน หรืออาจปรับตัวใช้งานไม่ได้เลย ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของค่าสายตา และการปรับตัวที่ยากง่ายของแต่ละบุคคล ราคาเริ่มต้น 7,800 บาท
- Freeform Progressive เริ่มนำค่าเฉพาะบุคคลบางส่วน เช่น ค่าสายตา และจุดศูนย์กลางตาดำ ไปคำนวณ เพื่อผลิตโครงสร้างเลนส์ที่เหมาะสมแบบเฉพาะบุคคล สำหรับค่าสายตาที่ไม่ซับซ้อนมากเกินไป ทำให้สามารถปรับตัวในการใช้งานได้ง่ายกว่ารุ่น Conventional ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท
- Individual Freeform Progressive ใช้เทคโนโลยีทั้งหมดของ Freeform เพิ่มเติม Lifestyle Fit เข้าไปในการผลิต ตัวโครงสร้างเลนส์จะคำนึงถึงกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน สามารถเลือกการใช้งานได้ 3 ประเภท (Near, Intermediate, Balance) เพิ่ม Luminance Technology ที่นำขนาดของรูม่านตาในสภาวะแสงต่างๆ เข้ามาคำนวณร่วมกัน ในการผลิตเลนส์ที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบเฉพาะบุคคล ทำให้ได้เลนส์ที่คมชัด ปรับตัวในการใช้งานได้ง่าย ราคาเริ่มต้น 36,000 บาท
ร้านแว่นตาโอคูระ ตั้งอยู่ที่ชั้น 23 อาคารว่องวานิช คอมเพล็กซ์ บี ถนนพระรามเก้า
เขตห้วยขวาง (เยื้องกับสำนักงานผังเมือง)
ร้านแว่นตาโอคูระไม่มีสาขา เพื่อให้การดูแลสายตาที่มีคุณภาพ และมาตรฐานที่ดีเยี่ยมแบบเฉพาะบุคคล
สามารถจอดรถได้ที่ อาคารว่องวานิช คอมเพล็กซ์ บี
ช่องจอดรถประจำของทางร้านที่ ชั้น 3 B ช่องจอดเลขที่ 107, 108 และ 112
หรือจอดได้ในช่องจอดรถของผู้มาติดต่อ Visitor ได้ทุกชั้น
วันจันทร์ ถึง วันอังคาร เวลา 11.00 น. – 20.00 น.
วันพฤหัสบดี ถึง วันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. – 20.00 น.
ปิดทำการทุกวันพุธ
*ในวันหยุดพิเศษอื่นๆ ทางร้านจะทำการแจ้งล่วงหน้าทาง
Line : @occura
Facebook : Occuravision
IG : Occuravision
ทางร้านจำหน่ายเฉพาะ ACUVUE Contact Lens
ทางร้านโอคูระยังไม่มีบริการแว่นสายตาสำหรับผู้ที่มีภาวะตาบอดสี
ในการตรวจวัดสายตาทุกครั้งต้องถอด Contact Lens ออก และทำการพักสายตาประมาณ 20 นาทีก่อนทำการตรวจวัดสายตา เพื่อให้กล้ามเนื้อตากลับสู่สภาวะผ่อนคลายเป็นกลางที่สุด
หากทางร้านมีเลนส์ค่าสายตาที่เหมาะสมกับลูกค้าภายในร้าน จะใช้เวลาประกอบประมาณ 30 นาที
ในกรณีที่ต้องทำการสั่งเลนส์ใหม่ขออนุญาตนัดวันรับ โดยเลนส์ชั้นเดียวใช้เวลาประมาณ 5-7 วันทำการ
ส่วนเลนส์โปรเกรสซีฟ และเลนส์เฉพาะทาง ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน
ในกรณีที่ให้ร้านโอคูระดูแลให้บริการในเรื่อง กรอบแว่นตา หรือเลนส์จะไม่มีค่าบริการใด ๆ เพิ่มเติม
ทางร้านยินดีให้บริการตรวจวัดสายตา และสั่งเลนส์ประกอบเข้ากับกรอบแว่นตาที่ลูกค้านำมาเอง
สามารถเลือกซื้อกรอบแว่นสายตา หรือแว่นตากันแดดได้ ทางร้านพร้อมบริการจัดส่ง
เลือกดูกรอบแว่นตาเพิ่มเติมได้ที่
https://www.occuravision.com/frames