การเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของค่าสายตาและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ที่ โอคูระ ร้านตัดแว่น Progressive มีคุณหมอนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำตั้งแต่การตรวจวัดสายตา แนะนำกรอบแว่น พร้อมแนะนำเลนส์คุณภาพดีจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Rodenstock, Zeiss, Nikon, Essilor และ HOYA เพื่อให้คุณเลือกเลนส์ที่เหมาะกับค่าสายตา การใช้งาน และไลฟ์สไตล์

เลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพดี ที่ Occura มีราคาเริ่มที่ 6,900 บาท

การตัดเลนส์โปรเกรสซีฟเปลี่ยนสีอัตโนมัติและกรองแสงสีฟ้าได้ ราคาเริ่มต้นที่ 14,400 บาท 

ประมาณ 1 จนถึง 1.30 ชั่วโมง ในการตรวจวัดสายตา เลือกกรอบแว่นและเลือกเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับค่าสายตา

ประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของเลนส์โปรเกรสซีฟที่เลือก

สามารถทำได้ โดยนักทัศนมาตรและช่างตัดแว่นจะให้คำแนะนำและตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมให้กรอบแว่นของคุณ 

ผู้ที่ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นครั้งแรก ต้องฝึกวิธีการใช้เลนส์ในช่วงแรก โดยเฉพาะการปรับพฤติกรรมการมองสิ่งของรอบตัว เพราะเลนส์จะมีภาพวูบวาบขณะเหลือบมองผ่านเลนส์ด้านข้าง เช่น หากต้องการเห็นภาพวัตถุด้านข้างได้ชัดเจน ต้องหันหน้าไปมองวัตถุนั้นตรง ๆ นอกจากนั้น บนเลนส์ยังมีการไล่ค่าสายตาเรียงจากบนลงล่าง จึงต้องมองผ่านโซนที่กำหนดไว้เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด เช่น การมองผ่านโซนครึ่งบนของเลนส์จะเห็นวัตถุระยะไกลคมชัด ในขณะที่การมองผ่านโซนครึ่งล่างของเลนส์จะให้ภาพระยะใกล้ที่คมชัด ดังนั้น จึงต้องฝึกเหลือบตาขึ้น-ลงในช่วงแรก ทั้งนี้ จะปรับตัวได้ช้าหรือเร็วยังขึ้นอยู่กับค่าสายตาที่ถูกต้อง พารามิเตอร์กรอบแว่นที่ได้มาตรฐาน โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับค่าสายตา รวมถึงการได้รับคำแนะนำในการใช้งานอย่างถูกต้อง  

เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ต้องไล่ค่าสายตาที่ต่างกันจากระยะไกลมาระยะใกล้ ทำให้เกิดภาพมัว (Oblique Astigmatism) บริเวณด้านข้างของเลนส์ เวลาเหลือบตาซ้าย-ขวา จะมองเห็นภาพไม่คมชัด ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีทำให้ปัจจุบัน ยังไม่สามารถผลิตเลนส์ที่สามารถไล่ค่าสายตาที่หลากหลายในเลนส์เดียวโดยไม่มีภาพบิดเบือนด้านข้างของเลนส์  

เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต เพื่อให้ได้เลนส์ที่มีค่าสายตาหลากหลายรองรับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัย ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาต่างกันไปด้วย  

การตัดแว่นโปรเกรสซีฟแบบ Premium ใช้เทคโนโลยีการผลิตและออกแบบเลนส์ที่ดีกว่าโปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้น จึงลดภาพวูบวาบด้านข้างขณะเหลือบมองซ้าย-ขวาได้ดีขึ้น อีกทั้งรองรับค่าสายตาและพฤติกรรมการมองเห็นที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้งานที่ไม่เคยใส่เลนส์โปรเกรสซีฟปรับการมองเห็นได้ง่ายขึ้น 

เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่น Premium และรุ่น Individual เป็นรุ่นที่มีการนำค่าสายตา สรีระตา รวมถึงรูปทรงของแว่นเข้ามาคำนวณในการผลิตเลนส์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล แต่รุ่น Individual จะมีการนำค่าพารามิเตอร์กรอบแว่นจริงไปคำนวณร่วมกันในการตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ เพื่อให้ได้เลนส์ที่มีความโค้งเหมาะสมกับค่าสายตาและกรอบแว่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงมีการนำพฤติกรรมการมองเห็นของผู้ใส่ไปคำนวณโครงสร้างด้วย จึงลดความวูบวาบด้านข้างเวลาเหลือบซ้าย-ขวา มากขึ้น ทำให้ผู้สวมใส่สามารถปรับตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่า 

1. หน้าแว่นไม่ใหญ่เกินไป ควรเลี่ยงกรอบแว่นทรงโอเวอร์ไซส์ เพราะจะทำให้มีโซนภาพบิดเบือนมากขึ้น 
2. หน้าแว่นไม่โค้งโอบหน้าจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดภาพบิดเบือนมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแว่นทรงสปอร์ตที่มีความโค้งสูง 12 องศาขึ้นไป หรือในกรณีที่ต้องการสวมแว่นทรงสปอร์ต ควรปรึกษานักทัศนมาตรเพื่อสั่งตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสม 
3. เลือกแว่นที่แป้นจมูกปรับดัดได้ เพื่อให้แว่นไม่ลื่นไหล ทำให้จุดศูนย์กลางของเลนส์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง 
4. เลือกแว่นที่ใส่แล้วกระชับกับใบหน้าไม่ไหลง่าย

จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่างแว่นมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการปรับแต่งกรอบแว่นและเลนส์ให้ตรงตามค่าสายตาเฉพาะบุคคล ทุกรายละเอียดมีความสำคัญและส่งผลต่อประสิทธิภาพของเลนส์โปรเกรสซีฟ ไม่ว่าจะเป็น  

• แป้นจมูกของแว่น ต้องวางในระนาบที่เหมาะกับดั้ง เพื่อให้เซ็นเตอร์ของเลนส์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนเอเชียที่มีพื้นที่ดั้งไม่มาก ช่างแว่นตาที่มีความชำนาญจะต้องปรับตำแหน่งนี้ให้สวมใส่สบายและไม่ทำให้แว่นลื่นไหล 
• มุมเทหน้าแว่นต้องปรับดัดให้เหมาะสม หากมุมเทไม่สมบาลานซ์ จะส่งผลกระทบโดยต่อการเหลือบตาเพื่อมองระยะใกล้ ทำให้การใส่แว่นเลนส์โปรเกรซซีฟไม่สบายตาจนอาจถึงขั้นปรับตัวไม่ได้ 
• ความสมมาตรของใบหน้า ช่างตัดแว่นตาที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถแยกแยะรายละเอียดเหล่านี้เพื่อนำมาปรับดัดแว่นโปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับโครงหน้าของแต่ละบุคคล  

ใส่แว่นโปรเกรสซีฟแล้วมองไม่ชัด ปวดตา อาจเกิดจากหลายสาเหตุ

1. ตำแหน่งเซ็นเตอร์ของเลนส์ที่วางไม่เหมาะสม ทำให้มุมมองแคบ ไม่สามารถกวาดตามองหาโซนที่ชัดได้ อาจส่งผลเสียต่อระบบการมองเห็น สามารถแก้ไขด้วยการตัดเลนส์คู่ใหม่ประกอบและวางเลนส์ในตำแหน่งที่เหมาะสม
2. กรอบแว่นไม่เหมาะสม เช่น กรอบแว่นใหญ่เกินไป ทำให้โค้งโอบหน้ามากเกินหรือไหลตกจากตำแหน่งตาได้ง่าย ทำให้การมองเห็นถูกรบวนส่งผลให้เวียนหัวได้ง่าย แก้ไขได้ด้วยเลือกกรอบแว่นให้เหมาะสมกับค่าสายตาของเลนส์
3. วัดค่าสายตาผิดทำให้การจ่ายค่าสายตาเพื่อตัดเลนส์คลาดเคลื่อน ส่งผลให้ภาพที่เห็นเบลอ หากเพ่งสู้ค่าสายตาที่ผิดจะเกิดอาการปวดตาตามมา ควรปรึกษาคุณหมอนักทัศนมาตรเพื่อตรวจวัดค่าสายตาใหม่
4. ไม่ได้รับคำแนะนำในการใช้งานที่ถูกต้อง เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟจะมีวิธีการใช้งานที่ต่างจากเลนส์ทั่วไป ทั้งนี้ผู้ใช้งานควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อปรับพฤติกรรมการมองให้ถูกวิธี

โอคูระ มีเลนส์โปรเกรสซีฟแบบทดลองให้ทดลองใส่ครบทุกแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Zeiss, Rodenstock, Nikon, Hoya, Essilor 

โอคูระ มีเลนส์โปรเกรสซีฟที่ทำจากกระจก ราคาเริ่มต้นที่ 25,500 บาท 

กรณีนำกรอบแว่นมาเอง ลูกค้าสามารถนำกรอบแว่นกลับไปใช้งานก่อนได้ในทุกกรณี

สามารถทำได้ แต่ต้องเว้นระยะ 3-4 สัปดาห์ เพื่อรอดูอาการของตาหลังผ่าตัดว่าไม่มีการติดเชื้อ อักเสบหรือบวม จึงสามารถพิจารณาตัดแว่นโปรเกรสซีฟได้ 

นอกจากบริการตัดแว่นโปรเกรสซีฟ ยังมีบริการตัดเลนส์สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เลนส์กรองแสงสีฟ้า เลนส์ออกแดดเปลี่ยนสี เลนส์เฉพาะทาง เลนส์สองชั้น เลนส์อ่านหนังสือ เลนส์ชะลอสายตาสั้นสำหรับเด็ก และเลนส์สำหรับแว่นกันแดดที่มีค่าสายตา