น้ำตาเทียม เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่หลาย ๆ คนนึกถึงเมื่อมีอาการตาล้า ตาแห้ง ด้วยคุณสมบัติที่คล้ายกับน้ำตาธรรมชาติ จึงสามารถช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นให้กับดวงตาทดแทนน้ำตาจริงที่ร่างกายอาจผลิตออกมาได้น้อยกว่าปกติ หรือมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้น้ำตาระเหยเร็ว ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักน้ำตาเทียมในทุกแง่มุม เพื่อให้การใช้น้ำตาเทียมสามารถให้ประโยชน์และมีความปลอดภัยที่สุด
สารบัญบทความ
-
- น้ำตาเทียมคืออะไร?
- ประโยชน์ของน้ำตาเทียม
- ประเภทของน้ำตาเทียม
- เข้าใจความแตกต่างระหว่าง น้ำตาเทียม กับ ยาหยอดตา เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง
- ข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนใช้น้ำตาเทียม
- วิธีเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่เหมาะสม
- การใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้น้ำตาเทียม
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำตาเทียม
- น้ำตาเทียมช่วยถนอมดวงตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีในระยะยาว
ภาวะตาแห้ง
ภาวะตาแห้งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อย หรือชั้นน้ำตาระเหยไวกว่าปกติ ทำให้ดวงตาขาดการปกป้องจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่การอักเสบของกระจกตา
ผู้ที่มีภาวะตาแห้ง มักจะต้องเผชิญกับอาการคันตา แสบตา ระคายเคืองตาเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตา บางครั้งอาจรู้สึกฝืดตา ลืมตายาก ตาพร่ามัว นอกจากนี้ ยังมักจะพบปัญหาแพ้แสง น้ำตาไหลง่าย หากแห้งรุนแรงอาจทำให้เยื่อบุตาขาวอักเสบ ขอบตาแดง หรือมีเมือกขี้ตาออกมาบ่อย ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาด้วย ‘น้ำตาเทียม’
น้ำตาเทียมคืออะไร?
น้ำตาเทียม หรือ Artificial Tears คือ สารละลายที่มีส่วนผสมคล้ายน้ำตาธรรมชาติ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา บรรเทาอาการตาแห้ง และช่วยปกป้องพื้นผิวดวงตา น้ำตาเทียมเป็นทางเลือกแรกที่แพทย์มักแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้ง
ประโยชน์ของน้ำตาเทียม
บรรเทาอาการตาแห้ง
น้ำตาเทียมช่วยลดอาการตาแห้ง ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นผิวดวงตา
ลดการระคายเคืองตา
น้ำตาเทียมช่วยชะล้างสิ่งแปลกปลอม และลดการระคายเคืองที่เกิดจากฝุ่นละออง หรือสารก่อภูมิแพ้
ปกป้องดวงตา
น้ำตาเทียมสามารถสร้างชั้นป้องกันบนพื้นผิวดวงตา ช่วยลดการระเหยของน้ำตาธรรมชาติ
ช่วยถนอมดวงตาเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง
น้ำตาเทียมช่วยถนอมดวงตาสำหรับผู้ที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมเป็นเวลานาน
บรรเทาอาการตาล้า
น้ำตาเทียมช่วยลดอาการตาล้าที่เกิดจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน
ประเภทของน้ำตาเทียม
1. น้ำตาเทียมแบบขวด
น้ำตาเทียมแบบขวด หรือน้ำตาเทียมแบบรายเดือน เป็นน้ำตาเทียมชนิดเหลวใส ใช้งานง่าย มีส่วนผสมของสารกันเสีย ทำให้สามารถเปิดใช้งานได้หลายครั้งจนกว่าจะหมดอายุ น้ำตาเทียมชนิดนี้จะมีราคาถูกกว่าน้ำตาเทียมชนิดอื่น ๆ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาตาแห้งเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะมีสารกันเสียจึงอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาหรืออาการแพ้ขึ้นในผู้ใช้งานบางราย
2. น้ำตาเทียมแบบหลอด
น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมรายวัน เป็นน้ำตาเทียมชนิดเหลวใส ใช้งานง่ายเช่นเดียวกับน้ำตาเทียมแบบขวด แต่จะไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย จึงมีความปลอดภัยกับดวงตามากกว่า ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีสารกันเสียจึงมีอายุการใช้งานสั้น ๆ ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งที่ต้องการใช้งานบ่อยครั้งใน 1 วัน ผู้ที่แพ้สารกันเสีย และผู้ที่ต้องการความสะอาด
3. น้ำตาเทียมแบบเจล
น้ำตาเทียมแบบเจล หรือขี้ผึ้ง เป็นน้ำตาเทียมที่มีความหนืดสูง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องดวงตาได้มีประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำตาเทียมแบบหลอดและแบบขวด หยอดครั้งหนึ่งสามารถรักษาความชุ่มชื้นได้นาน ทำให้ไม่ต้องใช้งานบ่อย มักใช้ในผู้ที่มีอาการตาแห้งปานกลางจนถึงระดับรุนแรง ทั้งนี้เพราะน้ำตาเทียมแบบเจลมีความหนืดสูง จึงทำให้หยอดน้ำตาเทียมแล้วตามัวชั่วคราว จึงควรหยอดในช่วงก่อนนอน หรือช่วงที่ไม่ได้ใช้สายตา
เข้าใจความแตกต่างระหว่าง น้ำตาเทียมกับยาหยอดตา เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง
‘น้ำตาเทียม’ ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ด้วยองค์ประกอบของน้ำตาเทียมที่มีความคล้ายคลึงกับน้ำตาธรรมชาติ แต่ไม่ได้มีสารออกฤทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขความผิดปกติของดวงตา จึงสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ในขณะที่ ‘ยาหยอดตา’ เป็นยาที่มีสารออกฤทธิ์ต่าง ๆ สำหรับรักษาความผิดปกติของดวงตา ซึ่งจะต้องจ่ายยาโดยแพทย์
ข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนใช้น้ำตาเทียม
ก่อนใช้น้ำตาเทียมควรทราบข้อควรระวังก่อนใช้งาน เพื่อความปลอดภัยและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ดังนี้
-
- น้ำยาหยอดตาเป็นของใช้ส่วนตัว ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่น
- น้ำตาเทียมที่เปิดใช้งานแล้ว จะสามารถใช้งานต่อได้ตามระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น น้ำตาเทียมแบบหลอดใช้งานได้ไม่เกิน 24 ชม. และน้ำตาเทียมแบบขวดใช้งานได้ไม่เกิน 1 เดือน
- หากต้องใช้น้ำตาเทียมคู่กับยาหยอดตา ให้เว้นระยะห่างประมาณ 10 นาที
- ระวังไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสกับดวงตาหรือขนตา เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
- หากใส่คอนแทคเลนส์ ใช้งานบ่อยครั้ง หรือแพ้สารกันเสีย ให้ใช้น้ำตาเทียมแบบหลอดที่ไม่มีการผสมสารกันเสียแทน
- หากมีอาการผิดปกติหลังใช้งาน ให้หยุดใช้น้ำตาเทียมทันทีและพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
วิธีเลือกซื้อน้ำตาเทียมที่เหมาะสม
การเลือกซื้อน้ำตาเทียมให้เหมาะกับการใช้งานมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆh ตามมา โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้
-
- พิจารณาตามอาการ เลือกน้ำตาเทียมชนิดที่เหมาะกับระดับความรุนแรงของอาการตาแห้ง
- ตรวจสอบส่วนผสม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมที่มีสารกันเสียหากคุณมีอาการแพ้ง่าย
- ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้งเรื้อรังหรือรุนแรง
- พิจารณาการใช้คอนแทคเลนส์ เลือกน้ำตาเทียมที่เหมาะสมกับการใส่คอนแทคเลนส์
- อ่านฉลากอย่างละเอียด ตรวจสอบวันหมดอายุและคำแนะนำในการใช้งานน้ำตาเทียมชนิดนั้น ๆ
การใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง
การใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง
-
- ล้างมือให้สะอาด ก่อนใช้น้ำตาเทียมทุกครั้ง
- กรณีใช้น้ำตาเทียมชนิดเหลว ให้เขย่าขวดหรือหลอดน้ำตาเทียมเบา ๆ ก่อนใช้งาน
- หยดน้ำตาเทียม โดยเอียงศีรษะไปด้านหลังและดึงเปลือกตาล่างลงเล็กน้อย
- ปิดตาเบา ๆ หลับตาหลังหยดน้ำตาเทียม เพื่อให้กระจายทั่วพื้นผิวตา
- การใช้น้ำตาเทียมแบบเจลหรือแบบขี้ผึ้ง แนะนำใช้วันละ 1-2 ครั้ง ช่วงตอนเช้าและก่อนเข้านอน
- ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับความถี่และปริมาณการใช้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้น้ำตาเทียม
แม้ว่าน้ำตาเทียมจะมีองค์ประกอบที่ค่อนข้างปลอดภัยแก่ดวงตา แต่สำหรับผู้ใช้งานบางรายอาจพบผลข้างเคียงหลังจากใช้น้ำตาเทียมได้ดังต่อไปนี้
-
- หยอดน้ำตาเทียมแล้วตามัว ตาพร่า เห็นภาพซ้อน
- มีอาการแสบตา ระคายเคืองตามากขึ้น
- ตาแพ้แสง
- ปวดตา
- คันตา ตาแฉะ น้ำตาไหล
- เปลือกตาบวม
กรณีที่พบผลข้างเคียงหลังใช้น้ำตาเทียม แนะนำให้หยุดใช้งานทันที และรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็วเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาต่อไป ทั้งนี้หากมีอาการตาแห้งจากการใช้งานคอนแทคเลนส์ แม้ว่าหยอดน้ำตาเทียมแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ควรพิจารณาหยุดใช้คอนแทคเลนส์ชั่วคราว และเปลี่ยนมาใช้แว่นตาแทนจนกว่าอาการจะดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำตาเทียม
ใช้น้ำตาเทียมได้บ่อยแค่ไหน ?
โดยทั่วไปสามารถใช้น้ำตาเทียมได้ตามต้องการ แต่หากต้องการใช้งานบ่อยครั้งหรือเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย
น้ำตาเทียมสามารถใช้ร่วมกับยาหยอดตาอื่น ๆ ได้หรือไม่ ?
สามารถใช้ได้ แต่ควรเว้นระยะห่างระหว่างการใช้ยาอย่างน้อย 5-10 นาที และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ร่วมกับยาหยอดตาชนิดอื่น ๆ
น้ำตาเทียมเหมาะสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์หรือไม่ ?
น้ำตาเทียมบางชนิดเหมาะสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์ ควรเลือกใช้น้ำตาเทียมสูตรที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์
น้ำตาเทียมช่วยถนอมดวงตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดีในระยะยาว
ถึงแม้ว่าการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแห้งและปกป้องสุขภาพตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่เราต้องใช้สายตามากขึ้น การใช้น้ำตาเทียมควบคู่กับการใส่แว่นตาตัดแสงที่มีประสิทธิภาพและค่าสายตาที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณถนอมสุขภาพของดวงตาและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
Occura ให้บริการตัดเลนส์แพ้แสงและเลนส์บลูออโต้ในราคาที่สมเหตุสมผล เลนส์เหล่านี้กับค่าสายตาที่เหมาะสม จะช่วยลดอาการตาล้าและตาแห้งที่เกิดจากแสงสีฟ้า รวมถึงการเพ่งมากเกินที่มาจากค่าสายตาที่ไม่เพียงพอ หรือมากเกินความจำเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาของเราพร้อมมอบประสบการณ์การตัดแว่นตาที่เหมาะสมและแม่นยำในแต่ละบุคคล รวมถึงบริการให้คำปรึกษาและตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด
ร้านแว่นตาโอคูระ ดูแลระบบการมองเห็นแบบครบวงจร จุดเริ่มต้นการดูแลสายตาที่สมบูรณ์แบบ
-
- โทรศัพท์ : 02-645-0192
- มือถือ : 081-611-6823
- Line : @occura
- Facebook: Occura Vision
- Instagram : occuravision
- พิกัดร้าน: 100/74 อาคารว่องวานิช บี ชั้น 23 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320