ช่วงวัยที่แตกต่างย่อมมีปัญหาสุขภาพตาและวิธีการดูแลที่ต่างกัน การจะออกแบบ ‘การมองเห็นที่ดี’ การตรวจวัดค่าสายตาเบื้องต้นอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องรู้ให้ลึกและเข้าใจว่าอะไรคือปัญหาและปัจจัยที่กระทบต่อการมองเห็นเฉพาะบุคคล
การตรวจสุขภาพตาเชิงลึกหรือ ‘Comprehensive eye examinations’ โดยนักทัศนมาตรที่เชี่ยวชาญของ Occura จึงเป็นมากกว่าการตรวจวัดค่าสายตาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย แต่ดูแลครบทั้งระบบการมองเห็น ตั้งแต่โครงสร้างภายในดวงตา การทำงานของระบบกล้ามเนื้อตา ตรวจการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้างเพื่อค้นหา ตาเหล่ ตาเข ตาเขซ่อนเร้น ไปจนถึงสุขภาพตาทั้งระบบ
เพราะความผิดปกติที่พบ อาจส่งผลกระทบต่อความคมชัดในการมองเห็น หากปล่อยทิ้งไว้มีโอกาสเกิดอาการตาล้าภาพซ้อน และสายตาสั้นเทียม จนเป็นปัญหาต่อคนวัยเรียน วัยทำงาน ที่ต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ และไอแพดตลอดทั้งวัน
Comprehensive eye examinations: มีขั้นตอนการตรวจอย่างไร ลงลึก ใส่ใจรายละเอียดขนาดไหน?
การตรวจวัดสายตาและระบบการมองเห็นอย่างครบวงจรทั้งระบบ เริ่มจาก
1.ตรวจสุขภาพตาส่วนหน้า
ขั้นตอนนี้จะใช้กล้อง Slit Lamp Biomicroscope และเครื่อง Wave Analyzer Medica เพื่อตรวจเช็คความปกติในการรับแสงของดวงตา เพราะการที่แสดงจะเข้ามาในดวงตาได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ต้องมีสุขภาพตาส่วนหน้าที่ดี ไม่มีโรคตา ชั้นน้ำตาต้องแข็งแรง และไม่มีความผิดปกติเชิงโครงสร้างและสรีระของดวงตา
สิ่งที่ต้องตรวจเช็ค มีดังนี้
- สุขภาพชั้นน้ำตาและภาวะตาแห้ง (Dry Eyes): เนื่องจากกระจกตามีโครงสร้างที่ไม่เรียบ จึงจำเป็นต้องมีน้ำตามาฉาบเพื่อให้พื้นผิวกระจกตาเรียบและหักเหแสงได้ดี หากสุขภาพน้ำตามีปัญหา เช่น น้ำตาระเหยง่ายจากคุณภาพชั้นไขมันที่ไม่ดี หรือร่างกายผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดอาการตาแห้ง มองเห็นภาพชัดสลับเบลอ บางคนเข้าใจว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะค่าสายตาเปลี่ยนทำให้การรักษาไม่ตรงจุด
- ต้อลม (Pinguecula): เป็นความเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาจากรังสี UV โรคนี้ทำให้คนไข้ตาแห้งง่าย แสบตา และระคายเคืองตาตลอดเวลา และอาจทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงถาวร
- ต้อเนื้อ (Pterygium): ภาวะที่เยื่อบุตาขาวเจริญล้ำเข้ามาบนกระจกตาเป็นรูปสามเหลี่ยม เกิดจากการสัมผัสรังสี UV แดด ลม และฝุ่นเป็นเวลานาน อาการที่พบคือ ตาแห้ง แสบตา ระคายเคือง ซึ่งหากรุนแรงจนทำให้เกิดตาเอียงต้องเข้ารับการรักษาก่อนที่จะตรวจค่าสายและตัดแว่น
- เลนส์ตาขุ่น (Lens Opacity) และต้อกระจก (Cataract): เลนส์แก้วตาขุ่นส่งผลให้มองเห็นไม่ชัด contrast ของภาพแย่ลง สาเหตุหลักมาจากความเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตาตามอายุ แต่สามารถเกิดจาก โรคเบาหวาน ยาสเตียรอยด์ การบาดเจ็บตา และการได้รับรังสี UV เป็นเวลานานมากเกินไป
- ขนาดรูม่านตาในเวลากลางวันและเวลากลางคืน หากกลางคืนรูม่านตามีการขยายตัวกว้างมากจะทำให้แสงฟุ้งและมีอาการสายตาสั้นตอนกลางคืน (Night Myopia) ได้
- ความโค้งและสมมาตรของกระจกตา เพื่อประเมินค่าสายเอียงเบื้องต้น วัดความพอดีของคอนแทคเลนส์ และค้นหาโรคกระจกตาโป่งพอง (keratoconus) ซึ่งหากมีภาวะกระจกตาโป่งพอง จะเกิดสายตาเอียงประเภท irregular astigmatism จำเป็นต้องรักษาอาการของโรคก่อนตัดแว่น
- ตรวจมุมระบายน้ำตาเพื่อประเมินความเสี่ยงต้อหิน (glaucoma)
หากไม่พบความผิดปกติของสุขภาพตาและสรีระตาส่วนหน้า จะเข้าสู่ขั้นตอนก่อนตรวจหาค่าสายตาต่อไป
2.ตรวจวัดค่าสายตา
การตรวจต่าสายตาเบื้องต้นจะตรวจด้วยเครื่อง (WAM) Wave Analyzer Medica ที่ช่วยตรวจประเมินดวงตาส่วนหน้าแบบเต็มระบบ สามารถวิเคราะห์สาเหตุหรือปัญหาของการมองเห็นได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยใช้เครื่อง Retinoscope มาตรวจวัดร่วมด้วยเพื่อความแม่นยำสูงของค่าสายตา เพราะสามารถตรวจจับแสงสะท้อนจากจอประสาทตาได้โดยตรง เมื่อได้ค่าสายตาเบื้องต้นแล้ว นักทัศนมาตรจะตรวจค่าสายตาบน (Digital Phoropter) อย่างละเอียด โดยขณะที่วัดสายตาจะมีการคลายกล้ามเนื้อเพื่อให้ได้ค่าสายตาที่เหมาะสม แม่นยำ ก่อนที่จะให้คนไข้ใส่แว่นทดลองค่าสายตา (Trial Frame) เพื่อทำการปรับจูนค่าสายตาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ในกรณีที่ลูกค้าสนใจเลนส์ Progressive สามารถทดลองใส่ก่อนใช้งานจริงได้เช่นกัน
3.ตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อตาและระบบการเพ่ง
เมื่อได้ค่าสายตาที่เหมาะสม นักทัศนมาตรจะตรวจระบบการมองเห็น 2 ระบบ ได้แก่ ระบบการทำงานของกล้ามเนื้อตา (Binocular Function) และระบบการเพ่ง (Accommodative) เพื่อประเมินอาการตาเข ตาเหล่ ตาเหล่แอบแฝง สายตายาวตามวัย และภาวะสายตายาวตามวัยแต่ไม่ได้เกิดจากความเสื่อมสภาพของการเพ่งตามอายุจริง(Pseudo Presbyopia) รวมไปถึงความผิดปกติของการทำงานร่วมกันของสองตาทั้ง 8 ประเภท
4.ตรวจสุขภาพตาส่วนหลัง (จอประสาทตา)
เพื่อเช็คความปกติในการส่งสัญญานภาพจากดวงตาไปที่สมอง เพราะหากจอรับภาพมีปัญหา ภาพที่เห็นอาจจะแคบลง เนื่องจากลานสายตาแคบลง บางกรณีอาจเห็นจุดดำๆ ในภาพ
ขั้นตอนนี้จะใช้กล้อง Fundus เพื่อตรวจวัดสุขภาพจอประสาทตา ในกรณีของคนสูงวัยจะตรวจวัดหาต้อหิน ความดันขึ้นจอตา และเบาหวานขึ้นจอตา แต่หากคนไข้มีค่าสายตาสั้นสูงอยู่เดิม จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นจอประสาทตาฉีกขาด Retinal Detachment เพราะมีกระบอกตาที่ยาวกว่าคนทั่วไป
5.เลือกเลนส์และกรอบแว่นที่ตอบโจทย์ปัญหาสายตาและเข้ากับรูปหน้า
นอกจากค่าสายตาที่แม่นยำเพื่อการมองเห็นที่คมชัด การเลือกกรอบแว่นที่เข้ากับใบหน้า บุคลิก ไลฟ์สไตล์ ภายใต้ความสบายในการสวมใส่จากบาลานซ์ที่ดีตั้งแต่หน้าแว่นไปจนถึงขาแว่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
ช่างประกอบแว่นที่มีความเชี่ยวชาญจะปรับดัดแว่นให้เหมาะสมกับใบหน้าและ fitting ให้เหมาะสมกับเลนส์ประเภทต่างๆ เช่น เลนส์ progressive เลนส์ digital เลนส์สั่งขัดพิเศษจากแล็ป
ทั้งหมดนี้ คือทุกขั้นตอนที่สะท้อนให้เห็นถึงความละเอียดและใส่ใจในการตรวจวัดสายตาและระบบการมองเห็นของ Occura เพื่อการมองเห็นที่ออกแบบมาเฉพาะคุณ
ที่โอคูระ (Occura Vision) ร้านตัดแว่นสายตาที่เน้นการดูแลและให้บริการตรวจวัดสายตาแบบละเอียดที่เหนือกว่าร้านตัดแว่นทั่วไป ดำเนินการโดยคุณหมอทัศนมาตรเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจวัดสายตาที่พร้อมมอบการมองเห็นที่ชัดเจน ติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-611-6823 หรือทาง LINE @occura