กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้ (Convergence Insufficiency : CI) เป็นภาวะที่พบได้ในทุกช่วงวัย แต่จะพบบ่อยในวัยเรียนและวัยทำงาน บางคนเข้าใจว่าเป็นเพียงปัญหาตาล้า หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็น บุคลิกภาพ และคุณภาพชีวิตได้
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้ว่ากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแก้อย่างไร โดยทำความเข้าใจตั้งแต่ความหมาย สาเหตุ อาการ ผลกระทบ ตลอดจนวิธีรักษา เพื่อให้คุณเข้าใจปัญหานี้อย่างชัดเจน และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
Key Takeaways
-
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้ (Convergence Insufficiency) เป็นภาวะที่ตาทั้งสองข้างไม่สามารถเบนลู่เข้าหากันได้ดีเวลามองใกล้ ทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดหัว ภาพเบลอหรือภาพซ้อน
- สาเหตุหลักของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้ มาจากการทำงานไม่ประสานกันของกล้ามเนื้อตาทั้งสองข้าง (ตาเหล่ซ่อนเร้น) หรือจากสายตาสั้นสูงที่ไม่ได้รับการแก้ไขมานาน ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรงเพียงพอ
- การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยอาจใช้วิธี Visual Training เพื่อฝึกกล้ามเนื้อตาให้แข็งแรงขึ้น หรือเริ่มจากการแก้ไขค่าสายตาด้วยแว่นก่อน แล้วติดตามผลการรักษา
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้จะไม่หายเอง ต้องเข้ารับการตรวจและรักษาอย่างถูกวิธีโดยนักทัศนมาตร และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ จึงควรทำ Visual Training อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำ
สารบัญบทความ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร อันตรายแค่ไหน
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้ (Convergence Insufficiency) คือ ภาวะที่ดวงตาทั้งสองข้าง ทำงานประสานกันได้ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะเวลามองใกล้ ๆ เช่น อ่านหนังสือ ดูมือถือ จอคอมพิวเตอร์ ทำให้ตาทั้งสองข้างไม่สามารถเบนลู่เข้าหากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเกิดอุปสรรคในการรวมภาพจากตาทั้งสองข้าง ทำให้มีอาการ ปวดตา ปวดหัว ภาพเบลอภาพซ้อนบางจังหวะ เพราะสมองไม่สามารถรวมภาพจากตาทั้งสองข้างให้เป็นภาพเดียวได้อย่างสมบูรณ์
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากสาเหตุใด
สาเหตุของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงขณะมองใกล้ (Convergence Insufficiency) เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งด้านสุขภาพ และพฤติกรรมการใช้สายตา โดยสาเหตุหลัก ๆ มีดังนี้
-
- ปัญหาการทำงานไม่ประสานกันของกล้ามเนื้อตาทั้งสองข้างที่เกี่ยวกับการกลอกตาในแนวนอน เรียกว่า ตาเหล่ซ่อนเร้น โดยสาเหตุนี้ไม่นับว่าเป็นโรคกรรมพันธุ์โดยตรง แต่มีแนวโน้มถ่ายทอดทางครอบครัวได้ในทางสถิติ อาจเป็นเพราะโครงสร้างทางกายวิภาคของตาในสายเลือดเดียวกันนั้นมีลักษณะที่คล้ายกัน
- ปัญหาสายตาสั้นสูง ๆ ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขมาเป็นระยะเวลานาน คนกลุ่มนี้เวลาใช้สายตามองสิ่งต่าง ๆ เรามักพบว่ากล้ามเนื้อตาจะไม่ค่อยถูกกระตุ้นให้ออกแรงแบบเหมาะสมอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรงและไม่ค่อยมีแรงที่จะใช้ในการดึงตาให้เบนลู่เข้าหากันได้ดีเพียงพอ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ส่งผลเสียอย่างไร
หากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระยะใกล้ (Convergence Insufficiency) ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จะส่งผลต่อคุณภาพการมองเห็นและบุคลิกภาพหลายประการ ได้แก่
-
- มองใกล้ ๆ แล้วเห็นภาพเบลอ หรือเห็นเป็นภาพซ้อนบางจังหวะในรายที่มีอาการรุนแรง
- ปวดตา ตาล้า ปวดหัว หลังอ่านหนังสือหรือทำงานหน้าจอคอมจอมือถือนาน ๆ
- อ่านหนังสือได้ไม่นานก็ง่วง ต้องพักบ่อย
- บางเคสอาจรู้สึกตาลอย หรือ รู้สึกเหมือนภาพสั่น ขณะมองใกล้
- ไม่สามารถโฟกัส มีสมาธิได้เวลาที่ทำงานระยะใกล้
- บุคลิกเปลี่ยน เช่น มีอาการขมวดคิ้วขณะมองใกล้
วิธีรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีกี่แบบ
แนวทางการรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระยะใกล้ (CI) จะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะนี้ โดยจะมีวิธีการรักษาตามสาเหตุที่พบ ดังนี้
-
- หากตรวจพบว่ามีต้นเหตุมาจากภาวะตาเหล่ซ่อนเร้น และกล้ามเนื้อตาไม่มีแรงพอที่จะชดเชยภาวะตาเหล่ซ่อนเร้นได้ เราจะใช้วิธีรักษาด้วยการทำ Visual Trainning เป็นคอร์สฝึกออกกำลังกล้ามเนื้อตาให้แข็งแรงมากขึ้น ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดจาก CI
- หากตรวจพบว่าอาการ CI เกิดมาจากผลข้างเคียงเรื่องค่าสายตาสั้นที่ไม่ได้รับการแก้ไข เราจะเริ่มต้นด้วยการจ่ายแว่นแก้ไขค่าสายตาก่อนเป็นอันดับแรก เพราะค่าสายตาบนแว่นจะสามารถช่วยลดอาการต่าง ๆ ลงได้ หลังจากนั้นจะมีการติดตามผลการใช้งานเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง หากพบว่าไม่มีอาการแล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการรักษา แต่หากยังไม่ดีขึ้น อาจต้องพิจารณาการทำ Visual Trainning เพิ่มเติมเป็นลำดับถัดไป
ทำไมต้องตรวจสุขภาพตาเชิงลึก?
การตรวจของเราเหนือกว่าการวัดค่าสายตาปกติ โดยนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญจะดูแลครบวงจร ตั้งแต่ โครงสร้างดวงตาภายใน ระบบกล้ามเนื้อตา (Binocular Function) และการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง
-
- ค้นหาสาเหตุของอาการ ตาล้า ภาพซ้อน
- เข้าใจปัญหาและปัจจัยส่วนบุคคลที่กระทบต่อการมองเห็น
- ค้นหาความผิดปกติแฝง เช่น ตาเหล่ ตาเข หรือความเสี่ยงต่อโรคตาอื่น ๆ
ขั้นตอนการตรวจวัดที่ละเอียด
การตรวจประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักที่ใช้เครื่องมือที่แม่นยำและดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ
-
- ตรวจสุขภาพตาส่วนหน้า (ด้วย Slit Lamp และ Wave Analyzer Medica): ตรวจภาวะตาแห้ง, ต้อชนิดต่าง ๆ , ความโค้ง/ความหนาของกระจกตา เพื่อประเมินสายตาเอียงและต้อหิน
- ตรวจวัดค่าสายตา (ด้วย Wave Analyzer Medica และ Digital Phoropter): วัดค่าสายตาเบื้องต้นและตรวจซ้ำอย่างละเอียด พร้อมคลายกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำที่สุด
- ตรวจสอบการทำงานของกล้ามเนื้อตาและระบบการเพ่ง: ประเมินระบบกล้ามเนื้อตาและระบบการเพ่ง ค้นหาอาการตาเข/ตาเหล่ที่แสดงออกหรือแอบแฝง
- ตรวจสุขภาพตาส่วนหลัง (จอประสาทตา) (ด้วยกล้อง Fundus): ตรวจเช็คจอประสาทตาเพื่อค้นหาความเสี่ยงต้อหิน, เบาหวานขึ้นจอตา หรือจอประสาทตาฉีกขาด
- เลือกเลนส์และกรอบแว่นที่ตอบโจทย์: แนะนำเลนส์ที่เหมาะสม (เช่น เลนส์ปริซึมสำหรับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และกรอบแว่นที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ พร้อมการปรับดัดแว่นโดยช่างประกอบแว่นผู้เชี่ยวชาญ
การวัดสายตาโดยละเอียดจึงสำคัญ เพื่อให้เลือกเลนส์แว่นตาที่ตอบโจทย์ปัญหาที่มีได้ดีที่สุด หากคุณสงสัยว่าควรตัดแว่นที่ไหนดีการเลือกร้านที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาและใช้เครื่องมือที่ทันสมัย จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าปัญหาการมองเห็นจะถูกแก้ไขอย่างตรงจุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระยะใกล้ (CI) มีกี่ระดับ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระยะใกล้ (CI) มี 2 ระดับ โดยระดับแรกจะมีอาการตาล้า ปวดตา ปวดหัว และตั้งสมาธิยากเวลาต้องใช้สายตาในระยะใกล้ ระดับถัดมาจะมีอาการรุนแรงขึ้นคือ เริ่มเห็นภาพซ้อนขณะมองระยะใกล้เป็นบางช่วงจังหวะเวลา
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระยะใกล้ (CI) มีโอกาสหายเองได้หรือไม่
ไม่หายเอง ควรเข้ารับการตรวจประเมินโดยนักทัศนมาตร เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินการแก้ไขอย่างถูกวิธี เช่น การทำ Visual Trainning เป็นต้น
หลังการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม
มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นจึงควรทำ Visual Trainning อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของนักทัศนมาตร
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ปัญหาที่แก้ไขได้
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะส่งผลต่อคุณภาพการมองเห็นและความมั่นใจในบุคลิกภาพ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ไร้ทางออก หากคุณเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง วิธีรักษาที่ทำได้มีทั้งการออกกำลังกล้ามเนื้อตาให้แข็งแรง (Visual Training) และการใช้เลนส์แว่นตาที่เหมาะสม หากใครต้องการตัดแว่นสายตาราคาดี ร้านแว่นตาโอคูระ พร้อมดูแลดวงตาทุกคู่ด้วยการตรวจวัดสายตาและระบบการมองเห็นอย่างละเอียด ไปจนถึงการให้คำปรึกษาจากผู้มีประสบการณ์เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
ร้านแว่นตาโอคูระ ดูแลระบบการมองเห็นแบบครบวงจร จุดเริ่มต้นการดูแลสายตาที่สมบูรณ์แบบ
-
- โทรศัพท์ : 02-645-0192
- มือถือ : 081-611-6823
- Line : @occura
- Facebook: Occura Vision
- Instagram : occuravision
- พิกัดร้าน: 100/74 อาคารว่องวานิช บี ชั้น 23 ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320