ทราบหรือไม่ว่าภาวะตาแห้งที่เป็นโรคยอดฮิตของคนทุกช่วงวัยสมัยนี้ มีต้นเหตุของอาการไม่เหมือนกัน และนำไปสู่วิธีการแก้ไขที่แตกต่างกันอีกด้วย หากปล่อยปะละเลยการดูแลภาวะตาแห้ง อาจทำให้ผิวกระจกตาอักเสบ กระจกตาไม่เรียบเนียน ส่งผลให้การมองเห็นเดี๋ยวชัดเดี๋ยวเบลอ และอาจแย่ลงจนไม่สามารถแก้ไขได้
โดยเราสามารถแบ่งประเภทตาแห้งตามต้นเหตุได้ออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆดังนี้
1.ตาแห้งจากการที่ต่อมผลิตน้ำตาทำงานผิดปกติ คือผลิตได้ไม่เพียงพอ หรือเพียงพอแต่คุณภาพน้ำตาไม่สมบูรณ์
ภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเช่น ต่อมผลิตน้ำตาเกิดการอักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ฮอร์โมนร่างกายไม่สมดุลจากวัยที่สูงขึ้นหรือตั้งครรภ์ โรคทางกายบางโรคเช่นไทรอยด์ รูมาตอยด์ รวมถึงการใช้ยาบางชนิดเช่นยาต้านซึมเศร้า ยาคุมกำเนิด ยาแก้แพ้ เป็นต้น โดยอาการแสดงเด่นชัดของตาแห้งกลุ่มนี้คือมักจะมีอาการตาแห้งมากขึ้นในช่วงเวลาบ่ายถึงค่ำๆ
วิธีการรักษา อาการตาแห้งประเภทนี้จะแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมชนิดสารละลายความเข้มข้นปกติ หรือแก้ไขที่ต้นเหตุแต่ละอย่างแทนเช่นหยุดทานยาหรือรักษาโรคทางกายที่เป็นอยู่ อาการตาแห้งก็จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ ส่วนการประคบอุ่นบริเวณเปลือกตาจะไม่ได้แนะนำสำหรับกลุ่มนี้เนื่องจากวิธีนี้จะเหมาะกับตาแห้งกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องการระเหยของน้ำตาที่เร็วกว่าปกติ
2.ตาแห้งจากการระเหยของน้ำตาที่เร็วกว่าปกติ
ภาวะนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากต่อมไขมันบริเวณเปลือกตาอักเสบหรืออุดตัน มักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา การใช้คอนแทคเลนส์รายเดือนเป็นระยะเวลานานแล้วมีสิ่งสกปรกสะสมมาอุดตันต่อม ทำให้ไม่สามารถสร้างชั้นฟิล์มมาเคลือบป้องกันการระเหยของน้ำตาได้เพียงพอ รวมถึงพฤติกรรมและสภาพอากาศรอบตัวเช่น กระพริบตาน้อยลงเวลาจ้องคอม มือถือ อ่านหนังสือ หรืออยู่ในที่ที่อุณหภูมิต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้น้ำตาระเหยไวขึ้นได้เช่นกัน โดยอาการแสดงเด่นชัดของตาแห้งกลุ่มนี้คือตาแห้งตลอดทั้งวัน เป็นๆหายๆ เวลาไม่แน่นอน บางครั้งจะลืมตาลำบากขณะตื่นนอนตอนเช้าเพราะมีเมือกเหนียวๆติดรอบขอบเปลือกตา
วิธีรักษาอาการตาแห้งประเภทนี้จะแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมชนิดสารละลายความเข้มข้นพิเศษในช่วงเวลาตื่นนอนและระหว่างวัน และให้ใช้น้ำตาเทียมชนิดขี้ผึ้งตอนก่อนนอน เพื่อให้ตาไม่แห้งในช่วงเช้าของวันถัดไป
ส่วนการประคบอุ่นบริเวณเปลือกตาหรือทำ lid scrub นั้นแนะนำให้ทำในกลุ่มสาเหตุนี้เพราะจะช่วยละลายต่อมไขมันที่อุดตัน ทำให้ผลิตชั้นฟิล์มป้องกันน้ำตาระเหยได้ดีขึ้น นับเป็นวิธีการแก้ไขที่สาเหตุได้ตรงจุด เพราะจะลดภาวะตาแห้งลงได้ยาวนานมากที่สุดนั่นเอง
เกล็ดความรู้สำคัญ
แท้จริงแล้วน้ำตาของคนเรามีทั้งหมด3ชั้น แบ่งออกเป็น
1. ชั้นในสุดที่ติดกับกระจกตาหรือตาดำเรียกว่าชั้น Mucin (ชั้นเมือก) ทำหน้าที่ยึดเกาะน้ำตาให้ติดกับกระจกตา ไม่ไหลออกไปภายนอกดวงตา
2. ชั้นกลางเรียกว่าชั้น Aqueous (ชั้นน้ำตา) เป็นชั้นที่มีอัตราส่วนเยอะที่สุดเมื่อเทียบกับชั้นอื่น ทำหน้าที่มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวดวงตา หากชั้นนี้มีความบกพร่อง จะก่อให้เกิดตาแห้งชนิดต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ
3. ชั้นนอกสุดคือชั้น Lipid (ชั้นไขมัน) เป็นชั้นที่สัมผัสกับอากาศโดยตรงและทำหน้าที่เปรียบเสมือนฟิล์มเคลือบชั้นน้ำตาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำตาระเหยไว หากชั้นนี้มีความบกพร่อง จะก่อให้เกิดตาแห้งชนิดระเหยไวกว่าปกติ
จากบทความข้างต้นจะเห็นได้ว่าภาวะตาแห้งมีสาเหตุ อาการและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน เมื่อทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดก็ควรแก้ไขให้ถูกจุด เพื่อเป็นการหยุดอาการตาแห้งที่ยั่งยืน หากท่านใดรู้สึกว่าตนเองมีอาการตาแห้ง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสาเหตุใด เรียนเชิญเข้ามาปรึกษากับนักทัศนมาตรประจำร้าน Occura ได้เลยนะครับ