ประเภทของเลนส์แว่นสายตา

ประเภทของเลนส์แว่นสายตา : เลือกเลนส์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณ

การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การดูแลสุขภาพสายตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรามักต้องจ้องหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทบจะตลอดทั้งวัน การเลือกแว่นตาเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนสักหนึ่งอันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป เพราะเลนส์แว่นตามีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเลนส์สายตามีกี่ประเภท เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกเลนส์สายตาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล

  

เลนส์แว่นสายตามีกี่แบบ ?

เลนส์ที่ใช้ในการตัดแว่นสายตาเพื่อตอบโจทย์กับสายตาสั้น ยาว เอียง หรือสายตายาวตามอายุนั้น สามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้

ชนิดเลนส์แว่นตา : เลนส์ชั้นเดียว

1. เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision Lens)

เลนส์ชั้นเดียว เป็นชนิดเลนส์แว่นตาที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้นหรือสายตายาวในทุกช่วงอายุ โดยเลนส์ประเภทนี้จะมีค่ากำลังสายตาเพียงค่าเดียวตลอดทั้งเลนส์ ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในระยะใดระยะหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นระยะไกลหรือระยะใกล้ แต่ก็สามารถเพิ่มค่าสายตาเอียงเข้าไปได้ 

  

ข้อดีของเลนส์ชั้นเดียว

  • ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใส่แว่น
  • มีให้เลือกหลากหลายวัสดุ ทั้งแบบบางและแบบทนทาน
ชนิดเลนส์แว่นตา : เลนส์สองชั้น

2. เลนส์สองชั้น (Bifocal)

เลนส์สองชั้นเป็นเลนส์ที่มี 2 ค่าสายตาในเลนส์เดียวกัน โดยส่วนบนของเลนส์จะเป็นค่าสายตาสั้น สำหรับมองระยะไกล และส่วนล่างจะเป็นค่าสายตายาว สำหรับมองระยะใกล้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามวัย และมีความยากลำบากในการมองเห็นระยะใกล้

  

ข้อดีของเลนส์สองชั้น

  • สามารถมองเห็นได้ทั้งระยะไกลและระยะใกล้ในเลนส์เดียว
  • ราคาไม่แพงมาก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชัดเจนในการมองทั้งสองระยะ

อย่างไรก็ตาม เลนส์สองชั้นจะมีรอยแบ่งระหว่างส่วนบนและส่วนล่างเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ (PC) เนื่องจากไม่มีระยะกลาง ทำให้เวลาเปลี่ยนจากมองไกลมาใกล้ ทำให้เกิดภาพกระโดด (Jump Image) ไม่ต่อเนื่อง

ชนิดเลนส์แว่นตา : เลนส์โปรเกรสซีฟ

3. เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)

เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์หลายชั้นไร้รอยต่อที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของเลนส์สองชั้น โดยให้การมองเห็นที่ชัดเจนในทุกระยะ ตั้งแต่ระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ โดยไม่มีรอยแบ่งที่เห็นได้ชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีปัญหาสายตายาวตามวัย หรือผู้ที่มีปัญหาการมองเห็นหลายระยะ

   

ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟ

  • ปรับแก้ไข้สายตาได้หลายช่วงในเลนส์เดียว
  • ให้การมองเห็นที่ชัดเจนในทุกระยะโดยไม่ต้องเปลี่ยนแว่น
  • สลับการมองได้ราบรื่น เปลี่ยนโฟกัสได้นุ่มนวล ไม่มีภาพกระโดด
  • ไม่มีรอยแบ่งที่เห็นได้ชัดเจน ทำให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องมองหลายระยะ เช่น การทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ การอ่านหนังสือ และการมองในระยะไกล

   

อย่างไรก็ตาม เลนส์โปรเกรสซีฟอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อย และมีราคาสูงกว่าเลนส์ประเภทอื่น แต่ด้วยคุณสมบัติที่ครอบคลุมการใช้งานทุกระยะ จึงถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน

ปัจจุบันเลนส์โปรเกรสซีฟได้มีการใช้ Freeform Technology ที่จะทำให้สามารถออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้เหมาะสมกับค่าสายตา สรีระตา และการใช้งานได้

คุณสมบัติเสริมของเลนส์แว่นตา

นอกจากชนิดเลนส์แว่นตาแล้ว ยังมีคุณสมบัติเสริมที่สามารถเพิ่มเติมลงไปในเลนส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและการปกป้องดวงตา ได้แก่

  

ป้องกันแสงสีฟ้า (Blue Light)

แสงสีฟ้าเป็นแสงที่มาจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ การมองหน้าจอเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อดวงตาและการนอนหลับ เลนส์ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงสีฟ้าจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและป้องกันผลกระทบจากการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานได้ 

  

ป้องกันรังสียูวีและลดแสงสะท้อน

รังสียูวีจากแสงแดดสามารถส่งผลเสียต่อดวงตาในระยะยาว เลนส์ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีจะช่วยปกป้องดวงตาจากอันตรายเหล่านี้ นอกจากนี้ การเคลือบผิวเลนส์เพื่อลดแสงสะท้อนยังช่วยให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงที่สว่างจ้า

  

เสริมผิวเลนส์ให้แข็งแรงทนทาน

การเคลือบผิวเลนส์ด้วยสารพิเศษจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานให้กับเลนส์ ทั้งยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและยืดอายุการใช้งานของแว่นตา

เคล็ดลับในการดูแลรักษาเลนส์แว่นตา เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การดูแลรักษาแว่นตาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเลนส์ได้เป็นอย่างดี โดยมีเคล็ดลับในการดูแลรักษาเลนส์แว่นตา ดังนี้

  

  1. ใช้น้ำสะอาดล้างเบื้องต้น : ก่อนจะเช็ดเลนส์ ควรล้างด้วยน้ำสะอาดก่อน เพื่อชะล้างฝุ่นละอองออกไป ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนจากเศษฝุ่นขณะเช็ด
  2. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด : ผ้าไมโครไฟเบอร์มีความนุ่มและเส้นใยละเอียด จึงช่วยเช็ดทำความสะอาดเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน
  3. เช็ดเลนส์เบา ๆ : ควรเช็ดเลนส์ไปในทิศทางเดียวกันเบา ๆ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเคลือบผิวเลนส์
  4. เก็บแว่นตาในกล่อง : เมื่อไม่ใช้งาน ควรเก็บแว่นตาใส่กล่องเพื่อป้องกันฝุ่นละอองและรอยขีดข่วน รวมถึงป้องกันการตกหล่นหรือกระแทก

  

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  

  • ไม่ควรใช้เสื้อผ้าเช็ดเลนส์ : เพราะเส้นใยในเสื้อผ้าอาจมีความหยาบและทำให้เลนส์เกิดรอยขีดข่วนได้
  • ไม่ใช้กระดาษทิชชูเช็ด : กระดาษทิชชูมีความหยาบและอาจทิ้งเศษกระดาษบนเลนส์ ทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้
  • ไม่ควรวางแว่นตาคว่ำ : การวางแว่นตาคว่ำอาจทำให้เลนส์เสียรูปหรือเกิดรอยขีดข่วนได้ แต่ควรวางในลักษณะตั้งขึ้นหรือเก็บในกล่องใส่แว่นตา

  

สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านตัดแว่นตา ที่มีทั้งเลนส์ Progressive และเลนส์ประเภทอื่น ๆ พร้อมกรอบแว่นดีไซน์สวยงามในราคาคุ้มค่า ต้องมาที่โอคูระ (Occura) ร้านแว่นโปรเกรสซีฟที่เน้นการดูแลและให้บริการตัดแว่นและตรวจวัดสายตาแบบครบวงจร เหมาะสมกับทุกการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคุณ

เลนส์ชั้นเดียว

เลนส์ชั้นเดียว (Single Vision)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นหรือยาว

เลนส์โปรเกรสซีฟ

เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะสายตายาว

ตามอายุ (Presbyope)

เลนส์เฉพาะทาง

เลนส์เฉพาะทางสำหรับกิจกรรมเมื่อต้องเจอแสงแดด หรือเพื่อใช้ทำงานโดยเฉพาะ (Office Lens)

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับชนิดเลนส์แว่นตา

การเลือกเลนส์สายตาควรพิจารณาจากสภาพสายตา การใช้งานในชีวิตประจำวัน และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา การตรวจสายตาและปรึกษาคุณหมอนักทัศนมาตรจะช่วยให้เลือกเลนส์ที่เหมาะสมได้ดีที่สุด

หากเลนส์สายตาเป็นรอยหรือเสียหาย ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาเพื่อเปลี่ยนเลนส์ใหม่ เพราะการใช้เลนส์ที่เป็นรอยอาจทำให้การมองเห็นไม่ชัด